
คุณกับเธอ
1.
ถึงที่สุดเธอนั่นเองที่เป็นคนโทรศัพท์แจ้ง ตำรวจ โทรจากโทรศัพท์มือถือของเขาเองตอนที่เขาอาบน้ำ ให้การกระจ่างแจ้งหมดจด รายละเอียดคดีตรงตมข้อมูลของตำรวจ แสงของไซเรนเหนือหลังคารถอาจสาดไปถึงกลางมหาสมุทรลึกลับข้างนอกตอนที่ตำรวจ มาถึง เสียงหวีดกรีดประสาทซวนเศร้าของไซเรนทไหน้าที่แทนเสียงพูดของเขาซึ่งหุบปาก สนิทและเอาแต่จ้องมองเธอ ข้างนอกนั่น เสียงคลื่นกรรโชกชายหาดรุนแรงราวกับเสียงครวญครางของหญิงสาวที่ตายไปโดยไม่ ได้รู้เนื้อรู้ตัว เสียงของภูติผีผู้ตายที่ตามติดหลอนหลอกฆาตกร และจะไม่สงบจนกว่าเขาจะได้รับโทษอันสาสม เสียงของผู้หญิงพวกนั้นซึ่งเธอฝันเห็นเป็นบางครั้งตอนที่เธอเริ่ม้มป่วยลง ฝันสับสนกึ่งจริงผสมเสไปหมด ลิ้นที่บวมพองในริมผีปากที่เปิดอ้า เส้นเลือดแตกในตาขาวทำให้เลือดออกมาย้อมแววสะพรึงสงสัยสุดท้ายในชีวิตให้แดง ฉาน เธอเองก็ถูกจับด้วยในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด สรรพสิ่งจบสิ้นดับสูญลงตรงบังกะโลที่ประตูเปิดอ้าไปหาทะเล ตำรวจไม่มีความปรานีปราศรัยใดๆทั้งสิ้นกดหน้าของเขาแนบกับที่นอนขณะล๊อค กุญแจมือ เขามองดูเธอ โดยไม่ตอบคำถามใดๆไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น เอาเป็นว่าเธอรอดพ้นจากเกมของความตายแน่ๆแล้ว แต่ที่เธอรู้สึกคือลมที่กรูเกรียวมาจากทะเล กรรโชกสนเหนือหลังคาบ้านจนน่ากลัว นับจากนี้เธอโดดเดี่ยวชั่วนิรันดร์
พอ คุณรักใครสักคน คุณก็จะพูดกับเขาไม่ได้อีกต่อไป การสื่อสารของคุณไม่สามรถใช้ได้ คุณไม่สามารถจะพูดสิ่งที่คุณต้องการออกมาได้อีก คุณต้องการให้คนรักของคุณจับสังเกตจากท่าทีเล็กๆน้อยๆของคุณ จับสังเกตจากสิ่งที่คุณไม่ได้พูดออกมา สิ่งที่อยู่ระหว่างบรรทัดของความเงียบ คุณคิดว่าเขาหรือเธอจะมองเห็น สัมผัสได้ จากสิ่งที่คุณไม่ได้พูด เมื่อคุณมีความรัก คุณก็ได้กลายเป็นคนพิการที่สื่อสารได้ในเพียงรูปแบบเสียงของสัตว์ การพูดจะทำให้คุณแตกสลาย คุณสื่อสาร เรียกร้องความต้องการเอากับเฉพาะคนแปลกหน้ากับคนที่คุณไม่แยแส แต่กับคนที่คุณห่วงใยใส่ใจ คุณจะกลายเป็นเป็นคนพร่องพิการ เพราะคุณต้องการให้เขาแยแสคุณ การเรียกร้องไม่จบสิ้นซึ่งไม่ได้รับการตอบสนองจะทำให้คุณจมอยู่ในห้วงทุกข์ การที่คุณพูดจะทำให้คุณสูญเสียเยื่อใยที่เปราะบางนั้นไป คุณจึงเลือกความทุกข์ คุณเลือกที่จะเป็นคนหูหนวกเป็นใบ้และไม่รู้จักภาษามนุษย์ อาการดื้อและเสียงครวญครางไม่มีความหมายขอสัตว์ที่ป่วยไข้มอบความโรแมนติกใน ความรักให้กับคุณ และพอจะทำให้คุณมีศักดิ์ศรีอยู่บ้างที่ไม่ได้พูดออกไป การไม่ได้พูด พูดไม่่ได้จะโอบรัดคุณราวกับสัญญาทาสที่ไร้ทางต่อสู้ คุณสิ้นไร้ความสามารถในการสื่อสาร ความทุกข์ทำให้คุณเปล่งปลั่ง ความป่วยไข้ทำให้คุณรู้สึกพิเศษ แน่ล่ะมันคือกลุ่มอาการของโรคที่ชื่อว่าความรัก
2.
เขา พบเธอครั้งแรกในปั๊มน้ำมันระหว่างเส้นทางไปสุราษฏร์ธานี เด็กสาวผมสีน้ำตาลมะฮอกกานีม้วนรวบไว้ในหมวกและเสื้อหลวมโพรก มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเด็กสาวก๋ากั่นกล้าได้กล้าเสีย หน้าอกเล็กฟีบ ตาเจ้าชู้ ปากสีเข้มและใบหน้าผัดแป้งผ่องขาว เอื้อนเอ่ยถ้อยคำด้วยสำเนียงติดทองแดง เธอเดินแยกจากเพื่อนมาเข้าห้องน้ำ เขาสงบนิ่งรอคอยอยู่ในรถยี่ห้อซูบารุสีเขียวเรื่อ ซีดโศกอยู่ในแสงไฟนีออนมัวซัว รอคอยด้วยอาการมือสั่นน้อยๆ เนื่องจากเธอเพิ่งจะเป็นรายที่สี่ของเขา พอเธอเดินเข้าห้องน้ำเขาก็ลงจากรถ คาบบุหรี่ที่ไม่เคยจุดสูบจริงจัง ตามเธอเข้าไปในฝั่งห้องน้ำหญิง
เขา เล้าโลมเธอในห้องน้ำหญิง ด้วยรูปแบบของการรวบเธอจากด้านหลัง หัวของเธอฟาดเข้ากับขอบอ่างล้างหน้า กล่าวได้ว่าเขาลูบเนื้อตัวเปื้อนเลือดครึ่งหลับครึ่งตื่นของเธอ เกือบอดใจไม่ไหวข่มขืนเธอในนั้น แต่เขาชอบมากกว่าเมื่อพวกเหยื่อมีสติ และมันเสี่ยงเกินไปที่จะจัดการเธอในนั้น เขาประคองเธอเข้ามาในรถ ปั๊มน้ำมันกลางคืนเงียบสงบราวกับจะหลับไหลไป เพื่อนของเธอซึ่งไม่ค่อยชอบหน้าเธอนักคิดว่าเธอคงหลบไปเติมหน้าและสูบบุหรี่ โดยไม่รู้ว่าเธอจะไม่กลับออกมาจากห้องน้ำหญิงอีกแล้ว
3.
สรรพ สิ่งใดๆในโลกนี้แลคล้ายใยแมงมุมชนิดหนึ่งซึ่งมีตัวคุณอยู่ตรงกลาง คุณถักทอโยงใยบางประการ ใยใสบางยืดยาวเกี่ยวพันกับละอองฝุ่น เก่าแก่ลงอยู่ตรงนี้ตรงนั้น คุณเฝ้ารอแมลงตัวเล็กๆบินมาติดกับ เมื่อได้ที่คุณก็ลงมือพ่นใย ทุกอย่างในโลกล้วนอยู่ในความควบคุมของโครงข่ายอ่อนนุ่มนี้จนวันหนึ่งคุณค้น พบความเปราะบางของมัน แมลงบางชนิดบินมาติดกับ หากมันดิ้นรนจนใยคุณขาดสะบั้น ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินแข็งเย็น มีเพียงเส้นใยที่คุณเกาะเกี่ยวกับมันอยู่เท่านั้น นั่นคืออาการที่คุณพบเธอ อาการของการร่วงหล่นที่งดงามที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับคุณ แผลที่คุณลงมือทำหายแห้งตกสะเก็ด คุณจูบรอยแผลนั้นทุกคำ่คืนในสถานที่แปลกหน้าจนมันค่อยๆเหือดเลือดช้ำบวมและ ประสานกันด้วยเกาะของเกร็ดเลือดระเกะระกะ ซึ่งมันจะเป็นแผลเป็นที่ลบไม่ออก คุณคิดว่าก่อนหน้านี้คือการร่วงหล่น แต่ตอนนี้ต่างหากที่เป็นการร่วงหล่นของจริง ข้างนอกหน้าต่างรถสายฝนพร่างพรมคุณกับเธอแล่นเรื่อยไปบนถนนสายเปลี่ยวร้าง ห่อคลุมกันและกันไว้ด้วยใยของแมงมุมที่เขาเผลอคิดว่าเป็นใยของตัวไหม สายฝนมัวซัวเหมือนเส้นใยของตัวไหมที่ห่อหุ้มรถยนตร์ซูบารุตกรุ่น พรุ่งนี้คุณกับเธอจะกลายเป็นผีเสื้อบางชนิดซึ่งมีปีกพิกลพิการและสีสันอัน ผิดประหลาด บินไปสู่แสงแรกของวันใหม่ แต่คุณเป็นแมงมุม ใยของคุณไม่ช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงเป็นผีเสื้อ มันช่วยให้คุณฆ่าสิ่งอื่นต่างหาก อย่างมากมันแค่ช่วยให้การร่วงหล่นนั้นงดงาม
ที่เธอจดจำคือ กระจกฝ้า กระจกข้างของรถซึ่งขึ้นเป็นฝ้าจากการวิ่งในสายฝนไปสุดทางที่หาดทราย เธอเพิ่งสังเกตว่าชุดเครื่องแบบของปั๊มที่เธอสวมมานั้นเปื้อนเลือด ไม่รู้ว่าเป็นเลือดเธอ เลือดของเขาหรือเลือดของเด็กสาวคนนั้น เธอกุมกระชับมือข้างหนึ่งของเขาไว้แน่น มือที่เมื่อครู่เพิ่งกระชากร่างบอบบางของเด็กผู้หญิงคนนั้นราวกับเป็นเพียง เสื้อผ้าสักตัวหรือก้อนเนื้อสักชิ้นเธอกุมกระชับมือข้างหนึ่งของเขาไว้แน่น จ้องมองไปยังกระจกฝ้าที่มองไม่เห็นทิวทัศน์ภายนอกอีกแล้ว ทุกอย่างมืดมิดมัวซัว เขาสงบลงแล้วในที่สุด เขาสงบลงเสมอหลังจากได้ทำลายอะไรสักอย่างหรือฆ่าใครสักคน ถึงที่สุดการเดินทางของเขากับเธอพาทุกอย่างมาถึงจุดของกระจกฝ้า แสงไฟหน้ารถสาดผ่านเส้นสายฝนซึ่งฟาดลงบนตัวถังอย่างไม่ปรานี มือเย็นเฉียบของเขาเกาะกุมอยู่กับเธอ หรืออันที่จริงมือของเธอต่างหากที่เย็นเฉียบ ไขว่คว้าหามืออบอุ่นของเขา ความอบอุ่นที่เหลือค้างมาจากศพของเด็กผู้หญิง สายใยสุดท้ายที่ยึดโยงเขากับเธอหลังจากเร่ร่อนด้วยกันมาร่วมอาทิตย์ เธอหลับไปอีก หลับไหลลงอย่าเหนื่อยล้า ชายหาดไม่มีชื่อนั้นอยู่ลึกเข้าไปจากถนนดินแดน ทางทรายแคบๆ ที่มืดสนิท เธอตื่นขึ้นเมื่อเขาดับเครื่อง ฝนหยุดตกไปแล้ว ลมกรรโชกสรรพสิ่งวู่ไหว เขาหายลงไปติดต่อห้องเช่า เธอเผลอหลับไปอีก จนเขาต้องเคาะกระจกเรียก สะลึมสะลืออยู่ในกลางคืนที่ลมแรงราวจะพัดรากทุกรากของเธอให้หลุดปลิว
ตลอด วันที่เหลือ เธอขลุกอยู่กับเขาในห้อง เขาร่วมรักกัยเธอทั้งทั้งที่เธอยังหลับอยู่ เธอเพียงเงยหน้ามองเมื่อเขาหื่นอยาก ในที่สุดเธอก็รู้สึกสิ้นเรี่ยวแรงไปจริงๆ
ตลอดวันที่เหลือ เธอขลุกอยู่กับเขาในห้อง เขาร่วมรักกับเธอทั้งทั้งที่เธอยังหลับอยู่ เธอเพียงเงยหน้ามองเมื่อเขาหื่นอยาก ในที่สุดเธอก็รู้สึกสิ้นเรี่ยวแรงไปจริงๆ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ซีดเซียวป่วยไข้ แต่มีเรี่ยวแรงพอจะลุกไปไหนมาไหน เธอจะเดินลงไปที่ทะเล เจ้องมองทะเลเป็นชั่วโมงชั่วโมงโดยห่มคลุมเพียงผ้าคลุมเตียงเปลือยเปล่า เธอเลิกสวมเสื้อผ้าไปแล้ว ในขณะที่เขายังคงห่อร่างมิดชิด ราวกับพวกเขาผลัดกันตื่นและหลับ ถ้าเธอตื่นมาแล้่วเขาไม่อยู่เธอก็จะคิดว่าเขาอาจจะออกไปฆ่าใครอีก ความคิดแบบนั้นทำให้เธอทุกข์ทรมาน และเมื่อเขาเห็นเธอหลับ เขาก็ทุกข์ทรมาน เพราะรู้สึกว่าตัวเองทำให้เธอป่วยไข้
อีกครั้งที่คุณหิว อ้อมกอด หิวเนื้ออันอ่อนอุ่น ความหิวเป็นฝ่ายกัดกินคุณจากข้างใน อีกครั้งคุณพลิกตัวขึ้นกอดร่างของเธอ เผลอคิดว่าต้องกอดให้แน่นก่อนความอบอุ่นจะเหือดลงเมื่อลิ่มเลือดเริ่มแข็ง ตัว แต่เมื่อสัมผัสกับลมหายใจคุณก็สำนึกผิด ในที่สุด การได้มีความสัมพันธ์กับมนุษย์จริงๆทำให้คุณรู้สึกผิดบาปลึกซึ้งกว่าการฆ่า เธอเหนื่อยอ่อนลงทุกวันหลังจากออกเดินทางมาด้วยกัน และคุณร้องให้เสมอ เมื่อเธอเผลอหลับไป ความรู้สึกเปราะบางอ่อนไหวจำพวกนี้เกาะเกี่ยวคุณทั้งคู่ไว้ด้วยกัน คุณรู้สึกผิดที่คุณอ่อนไหวเกินไป ความรู้สึกผิดโบยตีคุณหนักหน่วง นั่นทำให่้ในที่สุดคุณรู้สึกอยู่ห่างไกลจากเธอมากขึ้นทุกที มันก็เหมือนกันกับทุกสรรพสิ่งที่เมื่อคุณได้ครอบครองคุณก็เริ่มต้นสูญเสีย มันไปทีละน้อย คุณเริ่มคิดถึงใบหน้าอื่น และความกระสันต์แบบอื่น คุณคิดถึงก็แต่สิ่งซึ่งล่วงเลยลอยลับไปแล้ว ความพิลาศพิไลชั่วครู่แบบนั้น แบบเดียวกับการลุกโพลงของดอกไม้ไฟซึ่งปะทุแตกอยู่ในร่างของคุณ มีแต่ความไม่จีรัง ไม่อาจครอบครองเท่ารั้นที่ปลอบประโลมจิตใจ คุณถอนมือจากร่างของเธอ เลื่อนขึ้นไปจูบรอยแผลแห้งเกรอะกรังของเธอ รสสัมผัสของผิวเกร็ดเลือดแห้งตะปุ่มตะป่ำ ทำให้คุณซ่านลึกอยู่ภายใน
4.
การ ข่มขืนเธอนั้นเกิดขึ้นอย่างรวบรัดยิ่งแต่การฆ่าเธอนั้นเป็นกลับเป็นยืดเยื้อ เรื้อรัง เธอฟื้นขึ้นบนรถของเขา หูได้ยินเพลงมิสเตอร์ แทมโบรีน แมน ของบอบ ดีแลน ซึ่งเธอมารู้จักในเวลาต่อมา สองข้างทางมืดสนิท เธอทั้งเตะถีบที่เบาะหลังจนกระทั่งเขาพูดลอดไรฟันว่า กูจะฆ่ามึง เธอจึงหยุด เยือกแข็งด้วยความกลัว สะอึกสะอื้นเงียบๆจนรถเลี้ยวเข้าไปจอดในตึกร้างริมทางที่เธอเองก็เคยผ่านไป มาทุกวัน เขาจะลากเธอลงจากรถ หากเธอยอมเดินตามไปโดยดี เธอถอดเครื่องแบบออกด้วยอาการสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจเก็บอาการ กางเกงผ้าสีฟ้าหลวมโพรก และกางเกงชั้นในลายตัวการ์ตูนถูกเธอเองรูดลงไปกองที่ข้อเท้า เธอพูดเบาจนแทบไม่ได้ยินว่า ‘พี่อย่าทำอะไรหนูเลย’ ตอนที่เขากดหน้าของเธอลงกับพื้นคอนกรีต เอาเข้าจริงเธอถึงกับชุ่มชื้นในช่วงท้ายๆด้วยซ้ำ ตอนที่เขาถะถั่งหลั่งล้น เขาซบหน้าลงกับแผ่นหลังร้อนผ่าวของเธอ มีดคมวาวซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงซึ่งกองอยู่ตรงข้อเท้า เขาลุกขึ้น รูดกางเกงคืนกลับตั้งใจจะทำให้จบสิ้นกระบวนการ เขาทำเช่นนี้มาสามครั้งแล้ว ข่มขืน เชือดคอเหยื่อ แล้วสาบสูญไป สามครั้งในสองเดือน นับรวมเหยื่อรายแรกซึ่งคือหญิงคนรักของเขาเอง เขารักความสงบยะเยือกเมื่อพิธีกรรมสิ้นสุดลง เหยื่อรวยรินลมหายใจ สิ่งนี้คือจุดกระสันต์หนักหน่วงหาใช่การหลั่งน้ำกามไม่ ร่างของเธอหดเล็กลงด้วยความกลัว แผลแตกที่ศรีษะยังมีเลือดซึมกางเกงหลุดลุ่ยและเสื้อแบะอ้าออก เด็กสาวผมสีน้ำตาลมะฮอกกานีซึ่งเพิ่งจบม.สามได้สองสามปี มีคนรักที่ไม่เอาไหน และมีแม่ที่ไม่เคยพอใจในอะไรสักอย่างหดขาเธอเข้าหากันด้วยท่าทางของทารก เธอสะอื้นให้ตัวสั่น ไม่กล่าวถ้อยคำใดๆอีกแล้ว
เขาลังเล เกินไปและนั่นคือเหตุผลที่เขาลงมือข่มขืนเธออีกครั้ง ตัดสินใจว่าเขาจะปล่อยเธอไป สถานที่นี้มืดเกินกว่าเธอจะเห็นหน้าของเขา และการข่มขืนเธอทำให้เขาเหนื่อยล้าเกินกว่าจะมองเห็นความตาย การข่มขืนครั้งที่สองนั้นเงียบเชียบแลคล้ายการสมยอมของคู่รักจำเป็น เด็กสาวไม่ได้เพิ่งถูกกระชากพรหมจรรย์ ในครั้งที่สอง เธอมองแสงสลัวจากที่แสนไกล ถะถั่งหลั่งล้นอย่างไม่ตั้งใจให้กับไอ้โรคจิต กล่าวให้ถูกต้องการข่มขืนครั้งที่สองที่พาทั้งคู่ไปถึงจุดสุดยอดนั้นเองที่ ทำให้เธอรอดจากความตาย
รถยนต์คั้นนั้นจอดนิ่งสงบอยู่ ในความมืด ซึ่งเราจะเห็นเพียงเงาสะท้อนเส้นขอบบางส่วนที่กรุด้วยแถบโลหะ พระจันทร์ตาบอดหลบอยู่หลังก้อนเมฆไร้รูปทรง แสงจากโคมไฟถนนสาดไปอย่างเกียจคร้าน ค่ำคืนเงียบสงบและมีลมพัด หญ้าเจ้าชู้เหยียดยอดส่ายไหวรอสักสิ่งมาสัมผัส อาจะเป็นแมวสักตัวหรือเด็กวัยรุ่นติดยาที่เผลอเดินผ่านเพื่อที่มันจะได้ติด ไปด้วย อาคารนั้นควรจะสูงสามชั้น ห้องแถวที่เรียงต่อกันห้าห้อง ขึ้นโครงค้างคาไว้ที่ชั้นสองโดยไม่มีผนังหรือประตู ห้องสามด้านที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยละม้ายคล้ายเวทีละครโศกนาฏกรรมจาก โบราณกาลไม่ก็กล่องแพนโดราที่เปิดอ้าออก ร่องรอยขรุขระของอิฐบลอคกลืนกลับเข้าไปในกลางคืนมืดมิด ด้วยอาการของการเคลื่อนไหวน้อยๆของสรรพสิ่งต่างๆ ในที่สุดมันราวกับว่าทุกอย่างนิ่งงัน เสียงเสียดสีของใบไม้ เสียงหอบหายใจของผู้คน เสียงของหมู่เมฆทะมึนมืดเสียดสัมผัสผิวตะปุ่มตะป่ำของแสงจันทร์ เสียงของแสงไฟที่โดนความมืดเจือจางไปทีละน้อยจนกระทั่งจมหายไปก่อนได้สัมผัส สิ่งต่างๆ ค่ำคืนมืดมิดเสมอไม่ว่าจะมีแสงดาวหรือไม่ ไม่ว่าจะมีคนรักกำลังร่วมรักหรือมีเหยื่อถูกฆาตกรรมหรือไม่ ความมืดยังคือความมืด จวบจนความหมายของมันถูกผูกพ่วงกับสิ่งอื่น แสงจันทร์ลอดผ่านหมู่เมฆออกมาได้ แต่ก็ไร้ความหมายในท้ายที่สุด เมื่อแสงของมันไม่ส่องต้องไปสู่สิ่งใดนอกจากความมืดที่กลืนกินทุกอย่างหมดจด จวบจนรุ่งเช้ามาถึง
5.
หลังจากฝันร้าย ตื่นขึ้นมาอาเจียน แล้วผลอยหลับไป คุณเปิดโคมไฟข้างเตียงทิ้งเอาไว้แล้วออกมาข้างนอก อันที่จริงถ้าคุณแข็งใจขับรถคุณจะถึงบ้านในอีกไม่นาน แต่คุณเลี้ยวผิดเสมอ คุณคิดว่าป้ายบอกทางไปบ้านจะเขียนอยู่ที่ไหนสักแห่งเสมอ สว่างเรื่อเรืองของชี้ทาง แต่คุณก็เลี้ยวผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า การกลับบ้านจึงยืดออกไปไม่มีที่สิ้นสุด คุณขับรถไปตามถนนของเมือสงขลาซึ่งเงียบเสียงลงราวกับเมืองร้าง เข้าตรอกนั้นออกตรอกนี้ คุณกับรถและเทปคาสเซตต์ม้วนเดียวที่คุณฟังมาตลอดทางหลอมรวมเป็นหนึ่ง กลายเป็นสัตว์ประหลาดบางจำพวกที่พร้อมสำหรับการออกล่าเหยื่อ กลางคืนเงียบเชียบหอมหวานด้วยกลิ่นเนื้อสดใหม่ของเด็กสาว คุณเลี้ยวออกจากถนนสายหลักเลียบไปตามชายหาดสมิหลาซึ่งมืดดำ กลางคืนอับลมและฟ้าร้องครืนครั่นอยู่ไกลๆ ไม่มีใครอยู่ที่ริมหาดเลย ตอนนั้นเองที่คุณเห็นหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง นั่นโดดเดี่ยวอยู่บนเก้าอี้เหล็กดัด สูบบุหรี่โดดเดี่ยวในรูปแบบของเงามืดดำ คุณเองก็เป็นเงาประเภทหนึ่งซึ่ซ่อนอยู่หลังแสงไฟจากโคมไฟริมถนน จ้องมองจนแน่ใจว่าเธออยู่คนเดียว
เธอกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ไปในท้ายที่สุดเมื่อเขากลับมาพร้อมกับตัวที่เปียกโชก ก่อนหน้านี้เธอตื่นขึ้นคนเดียวในโรงแรมแปลกหน้าเธอไม่รู้จัก อ่อนแอราวกับภรรยาผ่ายผอมของนักเขียนที่รักตัวหนังสือมากกว่าเมียของเข ภรรยาแบบที่จะถูกบรรยายอย่างงดงามก็ต่อเมื่อเธอได้ตายไปแล้ว ตอนนั้นเองที่เธอค้นพบว่าเธออาจจะรักเขาก็ได้ เธออาจจะขาดเขาไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนขาดอากาศจะหายใจ ทางเดินระหว่างห้องโล่งและเงียบจนน่ากลัว เธอยืนตัวสั่นอยู่ปากประตูก่อนจะล่าถอยกัลบเข้าในห้อง และคิดว่าถ้าเธอออกไปข้างนอกแล้วเขากลับมาไม่พบเธอ เขาจะไปจากที่นี่ สาบสูญชั่วนิรันดร์ เธอจึงกลับขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว นับเข็มวินาทีเงียบๆ จนเมื่อเขาโผล่เข้ามาด้วยเนื้อตัวเปียกโชก และรอยเลือดเปื้อนที่ข้อมือของเสื้อเชิ้ต
อย่างอ่อนล้าไร้ เรี่ยวแรง เธอลุกไปช่วยเขาถอดเสื้อเอาเสื้อไปซักในอ่างอาบน้ำ ถูมันด้วยสบู่ของโรงแรม ความซีดเศร้าไร้เสียงไหลท่วมทับตัวเธอจนมึนชา และไม่สามารถควบคุมมือที่ขยี้ลงไปบนเสื้อนั้น เลือดจางๆไหลลงไปตามท่อ เธอรู้สึกอ่อนล้าและปวดร้าว
คุณกับเขา
1.
ที่ จริงแล้วมันเริ่มต้นจากการที่เขาคิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำไป เขาคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อลงโทษที่เธอจากเขาไป เพราะหากเขาตายลงในเวลาเพียงสองสัปดาห์หลังจากเธอบอกว่าจะไม่อยู่อีกแล้วก็ เท่ากับว่าเธอทำให้เขาตาย ความตายของเขาจะหยั่งรากฝากรอยลงในตัวเธอไปตลอดกาล ในฐานะเครื่องยืนยันว่ามันเป็นสิ่งผิดที่เธอทิ้งเขาไป ผิดที่เธอทิ้งผู้ชายดีๆที่ทำุกอย่างเพื่อเธอมาตลอด เธอจะต้องไปได้รับการตอบแทนที่สาสม การตอบแทนในทำนองที่ในอีกหลายปีต่อมา ขณะเธอนอนเคียงข้างกับผู้ชายคนอื่น เธอจะผวาตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อชื้นร่างแต่รู้สึกเย็นเยียบราวกับข้างในถูกลูบไล้ด้วยน้ำแข็งของความ สำนึกบาป ครุ่นคิดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ฆ่าตัวตายเพราะเขารักเธอคนเดียว ความรักที่จืดจางลงคือบาปผิดติดตัว เธอไม่ผิดที่เธอทิ้งเขา แต่เขาจะทำให้เธอไม่ลืมเขาไปชั่วนิรันดร์
น่าเสียดายที่มัน ผิดพลาดไปหมด กลายเป็นเธอที่เขาฆ่า กลายเป็นเธอที่ทิ้งร่องรอยชั่วนิรันดร์ไว้บนตัวเขา เปิดบ่อแห่งความเกลียดชังทั้งหมดของเขาออกมา กับทุกสรรพสิ่งที่เขาปลีกตัวออก ความโกรธแค้นที่เขากักเก็บไว้ภายใน ทั้งจากเธอ จากคนที่เธอรัก จากคนอื่นๆ จากพ่อแม่ที่มีความสุขของเขา จากทุกสิ่งทุกอย่าง เขาค้นพบว่าในดวงตาเบิกโพลงของเธอนั้นเองที่เขาได้เห็นเธอเห็น ความโกรธเกลียดของเขา ความโกรธเกลียดไร้เหตุผลซึ่งพลุ่งพล่านและมอบความเพลิดเพลินชั่วครู่ ชั่วคราวในการทำให้เธอตาย เพื่อจะได้กอดถนอมเธอไว้เหมือนคนหนุ่มปัญญาอ่อนกอดถนอมซากกระต่ายที่เขาทำ มันตายกับมือตัวเองในหนังสือบางเล่มของเฮมมิงเวย์ เขาฆ่าเธอ นักเขียนทุกคนที่เขาบูชา และปรารถนาจะเป็นจ้องมองมาจากชั้นหนังสือ เพลิดเพลินในความเพลิดเพลินของเขาในฐานะวัตถุดิบชั้นดีที่เอาไว่้เขียนได้ แม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้ว
ภาพการฆ่าของเขานั้นเอาเข้าจริง เลือนราง คุณคิดว่ามากกว่าครึ่งเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้น คิดเองเออเองเพียงคร่าวๆถึงรูปทรงสวยงามของการฆ่าไร้แรงจูงใจ โดยไม่ยอมเล่าถึงรายละเอียด เขาอาจจะเป็นไอ้โรคจิตไร้รักที่ออกฆ่าผู้หญิงดวงซวยตามที่เปลี่ยวๆ คุณคิดเรื่องเขาต่างๆนาๆ คุณคิดถึงเขา การตกหลุมรักเขาทำให้คุณเนื้อตัวผ่าวร้อน นานเท่าไรแล้วที่คุณออกมาจากชีวิตดั้งเดิมของคุณ และเดินทางไปกับเขา
เขา บอกกับคุณว่าเขาจะกลับบ้านที่ปัตตานี กลับไปยังแม่น้ำและหอนาฬิกาที่เขาหนีจากมาเสียหลายปี แต่เขาขับรถหลงทางไปตลอด คุณเหลือบมองเห็นป้ายบอกทางซึ่งเขาเลี้ยวผิด แต่คุณก็ปล่อยห้เขาเลี้ยวไป การเลี้ยวผิดก็เป็นเหมือนความรักของคุณ ความรักที่ทำให้คุณป่วยไข่้ซีดเซียวมาตลอด ความรักทำให้คุณป่วยไข้ และความตายให้โอกาสแก่คุณในการก้าวออกจากชีวิตที่ค่อยๆหดแคบลงเรื่อยๆ คุณติดตามเขามา กล่อมตัวเองให้เชื่อว่าคุณรักเขา คุณยอมให้เขาล่วงล้ำในที่สุด คุณยอมให้เขาจูบไปจนทั่ว ยอมให้เขานอนหลับแล้วสะอื้นอยู่ในฝันร้ายซึ่งสงบลงเมื่อคุณเอามือลูบหลัง เวลาที่เขาหลับเขากลายเป็นทารกขาดรักที่หิวอ้อมกอด คุณจดจำการนอนอยู่ด้วยกันบนเตียงของโรงแรมซึ่งแสงเช้าทะลุม่านหน้าต่างได้ เพียงบางส่วน แสงเรื่อเรืองที่ทำให้สรรพสิ่งเหลือเพียงเงาจางๆ คุณรู้สึกสงบอบอุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ไกลจากบ้านไร้ห้องหับมิดชิดที่ทุกคนนอนรวมกันในมุ้ง ไกลจากห้องเช่าของคนรักซึ่งแข็งและอ้าวด้วยไอของแสงฟลูออเรสเซนต์และเสียง เพลงเต้นรำรุกเร้า คุณตกใจที่คุณจดจำมันในลักษณะของพิกเซลแตกๆจากภาพวีดีโอที่เขาแอบถ่ายตอน ร่วมรักกับคุณอย่างเร่งรีบ เขาเพิ่งเอาให้คุณดูสองสามอาทิตย์ก่อนหน้า กำชับว่าคุณจะต้องไม่ทิ้งเขา ใบบหน้าของคุณชัดเจนในพิกเซลแตกๆพวกนั้น กับเสียงแสร้งว่าสุขสมซึ่งคุณร้องออกไปเพื่อให้เขาพึงใจ ไกลจากดินแดนพวกนั้น ในห้องโรงแรมเหม็นอับเรื่อเรือง ในรถเล็กแคบที่เครื่องปรับอากาศไม่ค่อยได้เรื่อง คุณมีความสุข ปลอดสิ้นทุกพันธนาการ นั่นคือสิ่งที่คุณอาจจะใช้เป็นสารตั้งต้นของความรัก ความรักที่ทำให้คุณตัวร้อนรุมด้วยพิษไข้ ความรักที่ทำให้คุณไม่ถามอะไรอีก ความรักที่ค่อยๆทำให้คุณเป็นบ้า ด้วยอาการเซื่องซึมงดงาม ที่เขาหลงรัก คุณเป็นกระต่ายน้อยในกำมือของเขา คุณรักการทำให้เขาพอใจ เมื่อเขาอยู่กับคุณ เขากลายเป็นอีกคน เป็นคนละคนกับคนที่ข่มขืนคุณในตึกร้าง คาดคั้นมั่นมาด ในแบบที่คุณสิ้นสงสัยว่าเขาฆ่าคนได้ ทารกทุรชนที่คุณเดินทางไปด้วยกันจะพาคุณไปถึงขอบฟ้า คุณคิดสั้นๆง่ายๆโดยกอบเอาถ้อยคำจากหน้านิตยสารที่คุณเคยอ่าน
2.
การ ป่วยไข้ของเธอเริ่มทำให้เขากังวล อาจจะสองสัปดาห์หรือมากกว่าที่พวกเขาเดินทางไปด้วยกัน เขาคิดถึงศพคนรักที่บวมพออยู่ในห้องเช่า ศพของเหยื่อรายที่สองในตึกร้างข้างหลังห้างสรรพสินค้า เธอเป็นพนักงานขายเครื่องสำอาง จัดการง่ายดายจนมอบความพึงใจเพียงครึ่งหนึ่งของที่เขาเคยได้รับ เหยื่อรายที่สามเป็นเด็กนักเรียนมัธยมในจังหวัดเพชรบุรี ศพของเธอจมลงในแม่น้ำเพชร และคงล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน เขารู้อยู่ลึกๆว่ามันจะต้องจบลง เงินทั้งหมดในบัญชีสงบนิ่งอยู่ใต้รอยกรีดเล็กๆ ที่เขากรีดลงบนเบาะคนขับ เขาซ่อนมันจากเด็กสาว รอให้กลับถึงบ้านเขาจะฆ่าเธอเสียแล้วก็ฆ่าตัวตายในโรงแรมสักแห่งในบ้านเกิด ที่ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว การตายอันงดงามเท่านั้นคือเครื่องประโลมใจ คือรางวัลของผู้พ่ายแพ้ เขาตาย เธอตาย สวยงามในครรภ์ของห้องชั่วคราวซึ่งมี่คู่รักมากมายร่วมรัก จากลา ผ่านทาง ห้องซึ่งเป็นภูมิทัศน์แห่งความไม่จีรัง ในบ้านที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันจะฝังอยู่ในตัวเขาไปตลอด เขาคิดถึงความตายแบบนั้น ซึ่งนั่นทำให้ความกระสันต์ในการมองเห็นสิ่งสวยงามตายลงอย่างช้าๆต่อหน้า ทุเลาลงบ้าง ความรักของเธอทำให้เขาหายจากโรคร้ายของการฆ่า แต่มันทำให้เธอป่วยไข้
3.
การเดินทางยืดยาวออกไปไม่รู้ จบ ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนเทกระหน่ำลงมา คุณเผลอหลับไปขณะที่เขาเปิดเพลง แทมโบรีน แมน เขาเล่าเรื่องบอบ ดีแลนให้คุณฟัง แต่คุณก็ไม่รู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไร นอกจากท่อนที่บอกว่า ฉันจะตามคุณไป คุณคิดว่ามันเหมาะเจาะดีที่จะใช้เป็นเพลงประกอบการเดินทาง เขามีเทปคาสเซตต์ม้วนเดียวในรถ และมันเป็นเทปคาสเซตต์ของหญิงคนรักที่เขาฆ่าเป็นคนแรก ไม่มีเทปคาสเซตต์ขายระหว่างทางอีกแล้ว คุณจึงได้ฟังเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณหลับไปสักครู่ แล้วก็เริ่มเพ้อ เนื้อตัวผ่าวร้อน คุณส่งเสียงอืออืออาอา ไขว่คว้ามือของเขาในอากาศ ราวกับอาการของคนจมน้ำคว้าจับขอนไม้ คุณท้องเสียมาสองวันแล้ว แต่เขาไม่ยอมจอดตามปั๊มน้ำมันโดยไม่จำเป็น คุณถ่ายในพงหญ้าข้างทาง คุณไข้ขึ้นสูงแล้วสงบลง เขานอนกอดปลอบคุณตลอดคืนพร่ำบอกว่าจะพากลับบ้าน แต่ก็เลี้ยวผิด คุณดีขึ้นบ้างในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงสีอ่อนทำให้คุณสงบลง เหมือนกับรถแล่นอยู่ในจักรวาลพิเศษอาบเอิบแสงเงินแสงทอง ในเวลานั้นไข้ของคุณจะลดลงจนเกือบเป็นปกติ คุณจะมองดูเขาผู้ซึ่งยังคงอยู่ตำแหน่งเดิมเสมอเมื่อคุณมองมา คุณรู้สึกถึงความโศกเศร้าล้ำลึกที่กัดกินวัยสาวของคุณ สนธยากาลมอบความงดงามให้กับคุณมากเท่าที่มอบความเหนื่อยล้าให้ คุณสนุกมามากพอแล้ว แต่ตอนนี้มันยุ่งยากมากขึ้นเพราะเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกต่อไป เมื่อคุณผูกพันกับใครสักคน ไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหนคุณก็ไม่อาจตัดใจจากไปได้ง่ายดายอีกแล้ว คุณก็เลยแค่รอ เฝ้ารอให้ความอ่อนล้าจากความรักนั้นท่วมทับตัวมันเอง สูงจนคุณหายใจไม่ออก จากนั้นคุณจะต้องตัดสายเชือกสมอเรือ โผขึ้นเหนือน้ำเพื่อสูดหายใจใหม่ ลึกๆคุณรู้เรื่องนี้ดี
ผมกับฉัน
1.
จู่ๆฉันก็คิดถึงบ้าน แล้วก็รีบปัดความคิดนั้นไปจากหัว โดยไร้จุดมุ่งหมาย ฉันนั่งอยู่บนรถของฆาตกรโรคจิต คืนนั้นเราเข้าพักที่โรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่ง โรงแรมเก่าโทรมสกปรก พักชั้นสองที่ปูพื้นไม้ซึ่งลั่นเอียดออดทุกครั้งที่เหยียบย่าง หน้าต่างที่หัวนอนเปิดได้แค่บานเดียว เปิดไปหาผนังปูนสกปรกของบ้านที่อยู่ติดกัน อีกบานเปิดไม่ออกแม้จะออกแรงสักแค่ไหน เขาเลือกนอนข้างนั้น หลับไหลไปอย่างวดเร็ว ฉันมองดูเขาในแสงสลัวของสนธยากาล ท้องลั่นโครกคราก จินตนาการว่าฉันจ้วงแทงเขาด้วยมีดพก เลือดปรี่ไหลนองเตียงแล้วฉันออกไปข้างนอก เดินไปตามถนน ร้องให้คนช่วย แต่เปล่าประโยชน์จะทำอย่างนั้น ฉันจึงเริ่มต้นจินตนาการใหม่ว่าฉันอยู่กับเขา เรานอนเรียงเคียงกัน เขากระซิบคำรัก จักจี้ท้องฉันเล่น
เขาเล่าให้ฉันฟังหลังจากเราร่วมรักกันจริงๆครั้งแรกในคืนนั้นว่าเหยื่อรายแรกของเขาคือหญิงคนรักที่เขาคบมาสามสี่เดือน ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ อุบัติเหตุซึ่งทิ้งร่องรอยลึกลงในร่างกายเขา เขาบอกว่า อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ที่จะมีใครสักคนเริ่มได้กลิ่นของศพในห้องเช่า เขาไม่ได้สนใจอีกแล้ว เขาเล่าให้ฉันฟังเรื่องเหยื่อรายอื่นๆ เล่าอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับการฆ่าพวกเธอ และฉันเผลอคิดไปว่าฉันติดหนี้บุญคุณเขาที่ไม่ฆ่าฉัน เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด ชีวิตของเขานับจากนี้คือการหลบหนีชั่วครู่ชั่วยามก่อนจะจบสิ้นลง ฉันคิดว่าก็ไม่เสียหายอะไรที่จะเล่นสนุกกับเขาเสียหน่อย รับบทเหยื่อที่จะจบสิ้นลงได้ในทุกขณะ เซกส์ของเขาใช้ได้เลยทีเดียว เขาทำกับฉันอย่างทะนุถนอมราวกับฉันเป็นคนรักของเขา ‘ผมทะนุถนอมพวกเธอทุกคน แต่โดยมากตอนนั้นพวกเธอตายแล้ว’ เขาบอกกับฉัน ด้วยอารมณ์ประหลาดปั่นป่วนต่อสู้กันอยู่ภายใน ฉันอาจจะคิดผิดที่ละท้ิงชีวิตเด็กปั๊มไร้ความหมายที่ต้องคอยหลบเลี่ยงเจ้านายขี้หลี มาเดินทางไปกับฆาตกรโรคจิตที่ใกล้ถูกจับ การพูดถึงเขาในฐานะนี้ทำให้ฉันเศร้า คิดถึงความเศร้าไหลท่วมทับตัวเขาเมื่อเขาลงมือสังหารผู้หญิงพวกนั้น ความรู้สึกเศร้าเล่นซ้ำเหมือนภูติผีวนกลับมายังที่ที่ตัวเองตาย ใบหน้าของคนพวกนั้นปรากฏเป็นรูปรอยเดียวกับหญิงคนรัก
ผมตื่นขึ้นกลางดึกด้วยอาการของของหนักทับลงมาบนหน้าอก ซึ่งอาจจะเป็นผู้หญิงพวกนั้น สะดุ้งเฮือกหายใจหอบเหนื่อย เพ่งมองฝ่าความมืดออกไป มันมืดเสียจนมองอะไรไม่่เห็นกระทั่งรูปร่างของสิ่งของที่เคยเห็น ผมควานหาเธอในความมืด เธอนอนคว่ำหน้าหลับสนิท โดยอัตโนมัติ สิ่งแรกที่ผมทำคือการเอานิ้วไปอังใต้จมูกเพื่อให้รู้ว่าเธอยังไม่ได้ตายไป ผมไม่อยากสูญเสียเธออีกแล้ว เธอบอกผมว่าเธอเบื่อทุกอย่างบนโลกนี้ เธอเบื่อโรงเรียน เบื่อแม่ที่ไม่เอาใจใส่ของเธอ เบื่อไอ้หนุ่มแวนซ์ที่ไม่ได้ทำอะไรนอกจากพาเธอไปเอากันในป่าละเมาะหรือในห้องเช่า เบื่อเจ้านายขี้หลี และเพื่อนร่วมงานที่มองว่าเธอแรด ผมทำกับเธออย่างที่ผมอยากจะทำกับคนรัก แต่ไม่ได้ทำ เธอตอบสนองผมอย่างเต็มที่ ความรู้สึกแช่มชื่นกลับคืนมาช้าช้า ความมืดที่น่ากลัวล่าถอยไปแล้ว เหลือเพียงสีดำที่อบอุ่นสวยงาม หลังจากนอนจ้องมองเธอตลอดคืน ผมรู้สึกตื้นตันจนอยากจะร้องให้ออกมาจึงล้มตัวลงนอนซุกหน้าเข้ากับสีข้างของเธอด้วยท่าทางของทารกขดตัวหลับในครรภ์มารดาก่อนจะค่อยๆม่อยหลับไป
2.
แดดบ่ายไร้ตัวตนนอกจากอุณหภูมิอบอ้าวแผ่รังสีกระจายอยู่หลังหมู่เมฆ ท้องฟ้าเป็นสีขาวขุ่นข้น สรรพสิ่งถูกฉาบทาด้วยความร้อนไม่มีชื่อเรียก เครื่องปรับอากาศในรถบุโรทั่งของเขาทำงานไม่ดีนักฉันจึงนั่งเหงื่อไหลท่วมตัว คันคะเยอตรงแผลแตก หน้าตาบอกบุญไม่รับ จู่ๆเขาก็ปล่อยฉันลง จอดรถแอบเข้าข้างทาง บอกกับฉันว่า เขาจะไม่ฆ่าฉัน ฉันพิเศษกว่าผู้หญิงพวกนั้น เขาจะปล่อยให้ฉันลง เดินต่อไปอีกหน่อยจะถึงชุมชน ฉันเรียกรถกลับบ้านได้ที่่นั่น เขาเอาเงินใหฉันยังกับว่าฉันเป็นโสเภณี ทำท่าทางน่าสมเพชของพวกคนที่หลงคิดว่าตัวเองได้ช่วยเหลือเหยื่อเคราะห์ร้ายโดยลืมไปว่าตัวเองเป็นฆาตกรเอง ฉันสมเพชใบหน้าแบบนั้นเลยโยนเงินคืนใส่หน้าเขาแล้วนิ่งเงียบไม่ยอมลงจากรถ เรานิ่งเงียบกันอยู่ในเที่ยงวันที่อบอ้าว ส่งสัญญาณให้เข้าใจกันไปผิดๆเพราะนั่นทำให้ฉันกลายเป็นคนพิเศษมากขึ้นไปอีก เขาก้มเก็บเงินทั้งหมดใส่เก๊ะหน้ารถ เอื้อมมือมาแตะตัวฉันซึ่งสะดุ้งโหยงและหดขาหลบ มองกันในโมงยามนั้น เขาแทบไม่ใกล้เคียงพวกนักข่มขืนอะไรสักนิด เขาบอกว่างั้นก็มานั่งข้างหน้านี่
ถึงที่สุดเธอไม่อยากกลับบ้าน เธอแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ต่างไปจากพวกผู้หญิงที่ดิ้นขลุกขลัก ด่าทอผมด้วยคำหยาบๆคายๆ คนนึงน่าจะอายุสักเกือบสามสิบ แต่งตัวดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะสรรหาคำหยาบได้มากมายขนาดนั้น ผมทนคำพวกนั้นแทบไม่ได้ ผมก็เลยทำให้หล่อนหยุดพูด ชั่วขณะนี้ผมรู้สึกเป็นมิตรกับเด็กผู้หญิงแบบที่ผมจะหักคอเสียตอนไหนก็ได้ คนที่ผมละเมิดกฏด้วยการทำกับเธอสองครั้ง คนที่มือของเราแตะกันโดยบังเอิญตอนที่ผมขยับเปลี่ยนเกียร์ มองจากตอนนี้เราเหมือนคู่รักต่างวัย ซึ่งออกท่องโลกไปด้วยกัน ผมพยามกดข่มความรู้สึกพิเศษเกี่ยวกับเธอเอาไว้ ตรงนี้ ถนนสายตัดใหม่มุ่งตรงลงใต้ ถนนขนาดใหญ่ยักษ์ที่มองเลนตรงข้ามไม่เห็น ไร้รถแล่นสวนมาในวันที่อากาศขาวขุ่นอบอ้าว ผมคิดว่าเธออาจจะเข้าใจผมก็ได้ ครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองกลับเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้างหลังจากตลอดหลายสัปดาห์อันบ้าคลั่งและเจ็บปวด
3.
เขายังคงขับรถขณะที่ฉันหลับ เขาตัดสินใจจะไม่ฆ่าฉันหลังจากเขาข่มขืนฉันเป็นครั้งที่สอง ตามความตั้งใจเดิมเขาต้องทิ้งฉันไว้ในตึกร้างเหมือนหมาในทิ้งซากสัตว์ตายไว้ที่เดิมหลังจากมันอิ่มหนำ ฉันไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะร้องขอสิ่งใดอีกแม้แต่ชีวิต ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาสวมกางเกงให้เรียบร้อย แม้แต่จะกระดิกกระเดี้ยตัวเมื่อได้ยินเสียงเขาสตาร์ทรถ ฉันหลับไปทั้งอย่างนั้น พอมารู้สึกตัวอีกครั้งฉันก็อยู่บนรถของเขา แสงแรกยามเช้าสาดจับใบหน้า เสื้อแจคเกตคลุมห่ม และกางเกงถูกสวมเรียบร้อย เขาจ้องมองใบหน้าเปรอะเลือดเปื้อนแดดเช้าของฉันตอนที่ฉันหลับ ลูบเช็ดใบหน้าด้วยผ้าขนหนูผืนสีขาวมอซอ
เขาคิดว่าเขาจะไปเสีย นั่นคือรางวัลที่ฉันได้รับจากการไม่ขัดขืนการรุกล้ำ เขาไว้ชีวิตฉันเป็นการต่างตอบแทน แต่เขาก็กลับมา อาจจะเพราะเขาสงสารฉันหรือไม่ก็เพราะเขาคิดว่าเขาจะเอาฉันไปด้วย เขาจะฆ่าฉันเสียเมื่อไหร่ก็ได้ข้อนี้เขารู้ดี เขาเพียงยืดความตายของฉันออกไปอีกสักหน่อยเท่านั้น เขาสวมกางเกงคืนกลับ อุ้มฉันออกมาโดยพาดเข้ากับบ่าในลักษณะของการแบกสิ่งของก่อนจะโยนฉันเข้าไปที่เบาะหลัง เช็ดใบหน้าของฉัน ห่มคลุมฉันด้วยเสื้อแจคเกต แสงไฟหน้ารถสาดจับอาคารว่างเปล่าที่ราวกับว่างเปล่ามาชั่วกัปกัลป์
เรื่อเรืองไปด้วยแสงแดด ฉันสัมผัสได้แผ่วจางว่ามันเปลี่ยนจากการลักพาไปสู่การเดินทางไกล รถยนตร์ของเขาแล่นเชื่องช้าไปบนถนนเลียบทะเลในอำเภอท่าศาลา ชายหาดยามเช้าเงียบขรึมเก็บงำและฉันไม่ได้สัมผัสสายลมเพราะกระจกปิดอยู่ โมงยามสงบงามที่เราไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด ปล่อยให้ความแสบร้อนในท้องน้อยจากการเสียดสีโดยไม่ยินยอม และความอบอุ่นของแสงอาทิตย์สาดจับใบหน้าเผือดซีดของฉัน
เมื่อขับรถผมไม่คิดถึงสิ่งใดเลย การขับรถเป็นสิ่งเดียวที่ผมหลงไหล นั่นก่อนหน้าที่การฆ่าจะมาขอส่วนแบ่ง ผมรู้ว่าเธอคงกลัวจนตัวสั่น เธอไม่ดิ้นเลยตอนที่ผมข่มขืนเธอ ผิดกับคนอื่นๆ ชั่วขณะที่ผมมองร่างเล็กๆนั้นจมลงในความเหนื่อยล้าของการเกร็งกล้ามเนื้อทุกมัดให้ขึงตึงไร้ความรู้สึกตอบสนอง ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ราวกับความเจ็บปวดของเธอแผ่เข้ามาในตัวผมในทุกๆเส้นประสาทและหลอดเลือด ผมข่มขืนเธอและเราแลกเปลี่ยนความเจ็บปวดแก่กันและกัน ผมแก่พอจะเป็นพ่อเธอได้ และผมไม่เคยคิดโยงใยอะไรแบบนี้มาก่อน เธอมองดูผมเป็นส่ิงแรกตอนที่เธอตื่นขึ้น แสงแดดสาดจับใบหน้า เป็นครั้งแรกที่เธอได้มองเห็นผมเต็มตา ใบหน้าอัปลักษณ์ที่ถูกกาลเวลาวาดเติมให้ยิ่งอัปลักษณ์และโฉดร้าย ถนนเลียบชายหาดแทรกกลิ่นของสัตว์ทะเลแห้งที่จะยังอวลอยู่แม้ชาวเรือจะเก็บไปแล้วคล้ายวิญญาณยังคงวนเวียน ใบหน้าของเราสะท้อนแสงอาทิตย์ ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลง ‘มิสเตอร์ แทมโบรีน แมน’ ซึ่งยังคงค้างคาอยู่ในท่อนที่ร้องว่า ‘ไอ คัม ฟอลโลววิ่ง ยู’และผมคิดเอาเองว่าเธอจะติดตามผมไปทุกหนแห่ง การฆ่าจะไร้ความหมายหากเพียงผมยังอยู่กับเธอ
สรรพสิ่ง
ค่ำคืนมืดดำโดดเดี่ยว รถซูบารุถูกรื้อค้นโดยทีมตำรวจ แสงสีแดงสาดจับลงบนตัวถังจนสีเปลี่ยน เธอจ้องมองมันโดยรู้สึกว่านั่นไม่ใช่รถที่เธอโดยสารมาตลอดระยะเวลาทั้งหมด สถานที่นี้ก็เป็นเพียงที่พักค้างแรมชั่วคราว ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องชั่วครู่ แม้แต่ความรักของเธอ การคิดถึงมันต่างหากที่จะเป็นนิรันดร์ ท้ายที่สุดเขาทำสำเร็จ เธอถูกลงโทษ ติดเชื้อโรคชื่อความรักซึ่งจะยังคงอยู่กับเธอไปอีกนานเท่านาน เสียงลมยังคงหวีดหวิวอื้ออึง ทะเลคร่ำครวญหน่วงหนัก แสงสีแดงฉาบลงบนใบหน้าของเด็กสาวด้วยจังหวะสม่ำเสมอ จู่ๆเธอกรีดร้องอกมาเมื่อแน่ใจว่าฆาตกรถูกจับแน่แล้ว เธอโผเข้าหาเขาอย่างกับคนเสียสติ ร้องให้คร่ำครวญแข่งกับเสียงของมหาสมุทร ตำรวจยื้อยุดเธอเอาไว้อย่างสุดกำลัง เธอตีอกชกหัว กล่าวถ้อยคำคร่ำครวญของร้องให้เขาอภัยให้เธอ เธอถึงกับพูดออกมาว่าเธอจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา เสียงกรีดร้องด้วยอาการของคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปของเธอถูกกลบกลืนในเสียงครืนครางของบรรยากาศโดยรอบ เสียงของไซเรนเสียดหูที่รถสักคันลืมปิด เสียงจากมหาสมุทรที่กำลังคลั่ง เสียงของใบสนเสียดสีหลังคาบ้าน เสียงซึ่งประดังประเดเข้ามา นายตำรวจคนหนึ่งเผลอไปกดปุ่มเล่นเทป เสียงสุดท้ายที่เสียแทรกเข้ามาจึงเป็นเพียงเสียงโน้ตสั้นของการตีคอร์ดต้นเพลงแทมโบรีนแมน ซึ่งนายตำรวจผู้นั้นปิดมันก่อนคำว่า ไอ คัมฟอลโลววิ่งยู จะเดินทางมาถึง